ฮ่องกง (Hong Kong) เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่คนไทยนิยมเลือกไปเดินทางท่องเที่ยว และช็อปปิ้งกันในอันดับต้นๆ ฮ่องกง มีแหล่งช็อปปิ้งหลากหลายให้ไปละลายทรัพย์กัน มีร้านอาหารอร่อยให้ลิ้มลองอยู่ทั่วๆไป มีรถไฟฟ้า MTR ที่เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้สะดวกสบายในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเป็นอย่างมาก มีวัดชื่อดัง ที่คนไทยนิยมไปกราบไหว้ขอพรกันอยู่หลายวัด นอกจากท่องเที่ยวในฮ่องกงแล้ว ยังสามารถเดินทางไปยังมาเก๊า หรือ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้โดยง่าย โดยจากฮ่องกง สามารถเดินทางไปได้ ในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้บางท่านมักจะวางแผนการเดินทางทั้ง 3 ประเทศไว้ในคราวเดียวกัน
ข้อมูลประเทศฮ่องกงโดยสังเขป
ฮ่องกง (Hong Kong) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเขตปกครองตนเองริมฝั่งทางใต้ของประเทศจีน
ฮ่องกง มีพื้นที่รวมกันประมาณ 1,096.63 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย เกาะฮ่องกง (80.30 ตร.กม.) เกาลูน (46.71 ตร.กม.) เขตดินแดนใหม่ (New Territories) และเกาะอื่น ๆ (969.62 ตร.กม.) หรือขนาดประมาณ 1 ใน 6 ของพื้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเกาะฮ่องกง เกาลูนและเขตดินแดนใหม่ จะเป็นแนวเขาทอดตัวยาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือลงสู่ทิศใต้ เป็นแนวเขาที่ต่อเนื่องมาจากมณฑลฝูเจี้ยนและกว่างตงที่อยู่ทางตอนใต้ของจีน
ภาษา
ภาษากวางตุ้งซึ่งเป็นภาษาถิ่นที่มีการพูดตั้งแต่มณฑลกวางตุ้งของจีนเรื่อยมาจนถึงฮ่องกงได้กลายมาเป็นภาษาทางการของฮ่องกง ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นของภาษาของเจ้าอาณานิคมก็ยังคงเป็นภาษาทางการร่วมซึ่งถูกใช้พูดมากกว่า 38 เปอร์เซ็นของประชากร ก็เป็นภาษาที่ใช้แพร่หลาย ส่วนภาษาจีนท้องถิ่นอื่นเช่นแต้จิ๋ว หรือจีนแคะฯลฯ ก็มีไม่น้อยเช่นกัน และตั้งแต่ฮ่องกงกลับสู่ใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ การใช้ภาษาจีนกลางในการติดต่อก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการเข้ามาของชาวจีนแผ่นดินใหญ่และการติดต่อค้าขายระหว่างกัน ถึงแม้ว่าการใช้อักษรจีนนั้นยังนิยมใช้อักษรจีนตัวเต็มอยู่ก็ตาม นอกจากนั้นทางรัฐบาลฮ่องกงได้มีโครงการ “สองแบบอักษร สามภาษา” เพื่อสนับสนุนให้ชาวฮ่องกงใช้ภาษาทั้ง 3 ภาษาร่วมกัน คือภาษากวางตุ้ง จีนกลาง และอังกฤษ
( ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ฮ่องกง )
ภูมิอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม ถึง พฤษภาคม)
อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์เพิ่มขึ้น ช่วงเย็นอากาศหนาว อุณหภูมิเฉลี่ย 17– 26 องศาเซลเซียล
ฤดูร้อน (มิถุนายน ถึง สิงหาคม)
ร้อนชื้นและมีแดดจัด อาจมีพายุฝนฟ้าคะนองและฝนตกปรอยๆ เป็นครั้งคราว อุณหภูมิสูงถึง 31 องศาเซลเซียล แต่ระดับความชื้นสัมพัทธ์สูงจะทำให้รู้สึกร้อนขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ย 26 – 31 องศาเซลเซียล
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน ถึง พฤศจิกายน)
ลมพัดเย็นสบาย อากาศปลอดโปร่งมากและอุณหภูมิกำลังดี คนส่วนใหญ่ชอบมาเที่ยวกันช่วงนี้เพราะเป็นเดือนที่ดีที่สุดของปี อุณหภูมิเฉลี่ย 19 – 28 องศาเซลเซียล
ฤดูหนาว (ธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์)
อากาศแห้ง หนาวเย็นและมีเมฆมาก อาจมีแนวปะทะอากาศเย็นเป็นครั้งคราว อุณหภูมิลดต่ำลง 10 องศาเซลเซียล ในเขตเมือง อุณหภูมิเฉลี่ย 12 – 20 องศาเซลเซียล
โดยฤดูมรสุมจะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมและสิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน
( ที่มา : http://www.discoverhongkong.com/th/plan-your-trip/traveller-info/about-hong-kong/climate.jsp )
ศาสนา
ประชากรส่วนใหญ่ในฮ่องกง นับถือศาสนาพุทธ
วันที่เดินทาง : 23-26/01/2013
วันแรก
การเดินทางการครั้งนี้ใช้บริการของสายการบิน Air Asia ออกจากสนามบินดอนเมือง ประมาณ 7 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึงสนามบินนานาชาติมาเก๊าประมาณ 10.35 น.
เรียก Taxi จากสนามบินมาเก๊า มายังท่าเรือ Taipa Temporary Ferry Terminal เพื่อนั่งเรือ Cotai Jet ไปฮ่องกง โดยเรือจะไปถึงฝั่งฮ่องกง ที่ท่าเรือ Hong Kong Macau Ferry Terminal ตึก Shun Tak ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า Sheungwan ค่าเรือประมาณ 141 เหรียญ (วันธรรมดา) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยในวันที่ไป ออกเดินทางจากมาเก๊า ไปยังฮ่องกง ตอนเที่ยงๆ ที่นั่งบนเรือจะค่อนข้างว่างมาก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ตารางเวลา และอัตราค่าโดยสาร ได้ที่ http://www.cotaiwaterjet.com/index.html
จากตึก Shun Tak เรียก Taxi ไปโรงแรม Cosmopolitan เพื่อ Check In เข้าพัก
ด้านหน้าโรงแรม Cosmopolitan
บริเวณแผนกต้อนรับของโรงแรม
ภายในห้องพัก
เว็บไซด์ของโรงแรม Cosmopolitan -> http://www.cosmopolitanhotel.com.hk/
แต่เนื่องจากโรงแรม Cosmopolitan จะไกลจากสถานีรถไฟฟ้าพอสมควร ทางโรงแรมจะมีรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่งระหว่างโรงแรมและห้าง Time Square (ด้านล่างเป้นสถานี Causeway Bay ทางออก A)
นั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Causeway Bay ไปยังสถานี Tsim Sha Tsui เพื่อหาของกิน และเดินเล่นแถวถนน Granville
ร้านที่จะไปทานเป็นร้านโจ๊ก Hung Lee Restaurant ย่าน Tsim Sha Tsui (สถานี Tsim Sha Tsui ทางออก B2)
จากทางออก B2 เดินไปตามถนน Granville เพื่อหาร้านโจ๊ก Hung Lee Restaurant เดินไปเดินมา หลง เลยข้ามไปอีกฝั่งถนน
Centenary Garden เป็นสวนสาธารณะในชุมชน ใกล้ๆ Peninsula Centre ห้างเล็กๆในชุมชน
ร้านโจ๊ก Hung Lee Restaurant ย่าน Tsim Sha Tsui
เมนู ร้านนี้ มีทั้งโจ๊ก บะหมี่เกี๋ยว อาหารเป็นจานๆ หรือ แซนวิส ก็มี
ปาท่องโก๋ห่อแป้ง ราดด้วยซีอิ้ว
Noodle with Fresh Shrimp Dumping บะหมี่เกี้ยวกุ้ง เกี้ยวกุ้งลูกใหญ่ๆ
Congee Lean Meat โจ๊กหมูนุ่ม หมูนุ่มชิ้นใหญ่ๆ
ห้าง The One บนถนน Granville เป็นห้างที่ขึ้นชื่อว่าดีแห่งหนึ่งในฮ่องกง
สี่แยกช่วงกลางถนน Granville (จาก The One)
ถนน Granville เป็นแหล่งร้านค้าแฟชั่น สไตล์ น่ารัก คิกขุ ในย่าน Tsim Sha Tsui
ร้าน Lung Shing Dispensary อยู่ช่วงตรงกลางๆถนน Granville Road เป็นร้านขายน้ำหอมราคาถูกกว่า Sasa หรือ Bonjour แต่ไม่แน่ใจว่าของแท้หรือไม่ น่าจะแท้มั้ง
กินอิ่มแล้ว เดินดูของเสร็จ ก็กลับที่พัก โดยนั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Tsim Sha Tsui ไปยังสถานี Causeway Bay ทางออก A เพื่อนั่งรถ Shuttle Bus กลับโรงแรมที่พัก
ห้าง Time Square ย่าน Causeway Bay ตอนกลางคืน
วันที่ 2
เที่ยงๆ ออกไปหาอะไรทานก่อนที่จะไป Hong Kong Disneyland วันนี้จะไปร้านอาหารแถวย่าน Central
ถนน D’aguilar ย่าน Central เลี้ยวซ้ายเป็นถนน Wellington ที่ตั้งร้าน Yung Kee Restaurant ตรงขึ้นไปจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวตอนกลางคืน Lan Kwai Fong
ร้าน Yung Kee Restaurant อยู่บนถนน Wellington ย่าน Central สำหรับเมนูร้านนี้เด่นก็เป็นพวกห่านย่าง แต่ไม่ได้ทานครับ เพราะไม่ชอบทานห่านครับ
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 23.30 น.
เว็บไซด์ของร้าน Yung Kee Restaurant -> https://yungkee.com.hk/
หน้าร้าน Yung Kee Restaurant
ข้างๆร้าน Yung Kee Restaurant จะโชว์พวกห่านย่างเอาไว้ยั่วน้ำลายคนผ่านไปผ่านมา
Barbecued Pork อร่อยมาก สั่งไป 2 จานเลย
Fried Rice in Yeung Chow Style ข้าวผัดหยางโจว อร่อยดี กุ้งตัวใหญ๋
ทานเสร็จแล้ว เดินกลับไปยังสถานี Central เพื่อเดินทางไป Hong Kong Disneyland
บริเวณทางเชื่อมต่อระหว่างสถานี Central กับ สถานี Hong Kong จะมีร้านค้าอยู่หลายร้าน เช่น ร้าน Giordano ร้าน Okashi Land ร้านขายขนมจากญี่ปุ่น
เดินจากสถานี Central ไปยังสถานี Hong Kong เพื่อนั่งรถไฟฟ้าไปยัง Hong Kong Disneyland
ตามไปชมได้ที่ http://www.wintersea.net/2016/07/hong-kong-disneyland/
วันที่ 3
ช่วงสายๆ ใช้บริการรถ Shuttle Bus ของโรงแรม Cosmopolitan ไปลงที่ด้านหน้าตึก International Finance Centre Mall & Airport Express Hong Kong Station แล้วนั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Hong Kong Station ไปลงสถานี Tung Chung เพื่อดูของฝากซื้อที่ Citygate Outlets
เว็บไซด์ของห้าง Citygate Outlets -> https://www.citygateoutlets.com.hk/
เป้าหมายอยู่ที่ Giordano Outlet ที่ Citygate Outlets เพื่อมาหาซื้อเสื้อกันหนาวที่ฝากซื้อครับ
Food Republic ที่ Citygate Outlets ชั้น 2 ของห้าง ไม่แออัดมากนัก
ร้านอาหารเกาหลี Korean House ที่ Food Republic บนห้าง Citygate Outlets
Spicy Kimchi Noodle ของร้าน Korean House เป็นวุ้นเส้นใส่ในซุปกิมจิ เสริฟพร้อมกับข้าว 1 ถ้วย อร่อยดี เผ็ดๆ เหมาะก่ะลิ้นคนไทย
ข้าวยำเกาหลี ของร้าน Korean House เช่นกัน จานนี้ก็อร่อยเหมือนกันครับ
ภายในสถานีรถไฟฟ้า Tung Chung นั่งรถไฟฟ้ากลับมายังสถานี Kowloon เพื่อไปชมวิวเมืองฮ่องกง ที่ Sky100 Observation Deck
ห้าง Elements ซึ่งทางขึ้น Sky100 Observation Deck จะอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า Elements : Metal Zone (สถานี Kowloon ทางออก C)
ภายในห้างสรรพสินค้า Elements ช่วงที่ไปจะมีการตกแต่งภายในห้างเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
เว็บไซด์ของห้าง Elements -> http://www.elementshk.com/eng/elements/tourist/index.jsp
เดินไปทางฝั่ง Metal Zone เพื่อซื้อตั๋ว สำหรับขึ้นไปบน Sky100 Observation Deck ซึ่งจะอยู่ชั้นที่ 100 ของอาคาร International Commerce Centre (ICC) (ความสูง 393 เมตร)
Sky 100 Ticket Centre (ค่าขึ้นชมบนตึก Sky 100 คนละ 150 เหรียญ
ราคา ณ วันที่ไป ราคา ณ วันนี้ขึ้นเป็น 168 เหรียญ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 21.00 น. (อาทิตย์ – พฤหัส)
: 10.00 – 22.00 น. (ศุกร์)
: 10.00 – 00.00 น. (เสาร์)
เว็บไซด์ของ Sky100 Observation Deck -> http://sky100.com.hk/en/
ทางขึ้นไปบนตึก Sky100 Observation Deck จะต้องขึ้น Lift ไปที่ชั้นที่ 100 ของอาคาร International Commerce Centre (ICC)
ทางเข้า Sky100 Observation Deck จะมีการตกแต่งพื้นทางเดินเป็นแบบจำลองวิวที่นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นได้จากบน Sky100 Observation Deck
วิว Victoria Harbour จากบน Sky100 Observation Deck วันที่ไปอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จะมีหมอกค่อนข้างมาก
ภายในจุดชมวิวบน Sky100 Observation Deck จะมีการตกแต่งให้ดูสวย และมีที่ให้นั่งชมวิวเป็นระยะๆ
ร้านขายสินค้าที่ระลึก ภายในจุดชมวิวบน Sky100 Observation Deck
วิวเมืองฮ่องกง ฝั่ง Kowloon จากบน Sky100 Observation Deck
วิว Victoria Harbour และอาคารสำนักงานฝั่ง Hong Kong จากบน Sky100 Observation Deck
วิว Victoria Harbour และท่าเรือ Central ฝั่ง Hong Kong จากบน Sky100 Observation Deck
วิว Victoria Harbour อาคารสำนักงานฝั่ง Hong Kong และ Hong Kong Convention and Exhibition Centre จากบน Sky100 Observation Deck
หลังจากชมวิวบน Sky100 Observation Deck แล้ว ลงมาเดินชมการตกแต่งของร้านค้าแบรนด์เนม ภายในห้าง Elements กันบ้าง
ร้าน Miu Miu
ร้าน Louis Vuitton
ร้าน Prada
ร้าน Gucci
ภายในห้างสรรพสินค้า Elements จะมีการตกแต่งภายในห้างเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
จากห้าง Elements เดินทางไปหาของทานเล่นช่วงบ่ายๆกันต่อแถวย่าน Tsim Sha Tsui
จากสถานี Kowloon นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Hong Kong แล้วเดินข้ามทางเชื่อมจากสถานี Hong Kong ไปยังสถานี Central เพื่อไปต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง ไปลงที่สถานี Tsim Sha Tsui
ร้าน Maxim’s Cakes บริเวณทางเชื่อมระหว่างสถานี Hong Kong กับ สถานี Central เมนูที่แนะนำกันจะเป็น Mango Tart
ร้านที่จะไปทานขนมกัน คือ ร้าน Charlie Brown Cafe ลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก B2
Charlie Brown Cafe G/F-1/F, Kok Pah Mansion, 58-60 Cameron Road, Tsim Sha Tsui, Kowloon
เวลาเปิด-ปิด : 8.30 – 23.30 น. (อาทิตย์ – พฤหัส)
: 8.30 – 00.30 น. (ศุกร์, เสาร์ และวันหยุด)
เว็บไซด์ของร้าน Charlie Brown Cafe -> http://eng.charliebrowncafe.com/
ร้านจะอยู่บนถนน Cameron โดยจะมีทางเข้าร้านอยู่ที่ชั้น 1 แต่ตัวร้านที่นั่งจะอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งจะต้องเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 ครับ
ร้านค้าบนถนน Cameron จากภายในร้าน Charlie Brown Cafe
Lucy Light
Woodstock ข้างในจะเป็นมูสมะม่วง
Mango Frappa
บรรยากาศภายในร้าน Charlie Brown Cafe น่านั่งมาก เหมาะกับวัยรุ่นเช่นเรา
ภายในร้าน มีตุ๊กตา Snoopy กับ Woodstock และของที่ระลึกอื่นๆ ขายด้วย
Counter สั่งอาหารและเครื่องดื่ม ให้สั่งที่ Counter แล้วจ่ายเงินให้เรียบร้อย จะมีพนักงานเดินมาเสริฟให้ที่โต๊ะเองครับ
ขนมแบบต่างๆ ตามชื่อการ์ตูน ดูแล้วน่าทานทุกอย่างเลยครับ
รูปปั้น Charlie Brown สัญญลักษณ์ของร้าน
รูปปั้น Charlie Brown ริมหน้าต่าง กับ วิวร้านค้าบนถนน Cameron
หัวบันได ก็จะเป็นรูปปั้น Charlie Brown ด้านข้างจะเป็นรูปปั้น Snoopy กับ Lucy Light
ระหว่างทางขึ้น-ลงของร้าน ก็จะประดับด้วยตุ๊กตาตาม Concept ของร้าน
หลังจากทานกันอิ่มแล้วเดินทางถนน Cameron มาที่ถนน Nathan แล้วไปเลี้ยวขวาที่ถนน Haiphong เพื่อต่อไปยังถนน Canton
ร้าน Coach บนถนน Canton
ร้าน Longchamp บนถนน Canton
ร้าน H&M บนถนน Canton
ร้าน Gucci บนถนน Canton
ร้าน Louis Vuitton บนถนน Canton
ร้านค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ บนถนน Canton
Heritage 1881 ห้างที่สวยที่สุดในฮ่องกง ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษ ซึ่งเก่าแก่กว่า 120 ปี แต่เดิมเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของตำรวจชายฝั่งฮ่องกง
เว็บไซด์ของห้าง Heritage 1881 -> http://www.1881heritage.com/
เดินมาเรื่อยๆ จนถึงบริเวณอ่าว Victoria เพื่อชมแสงสีของบรรดาตึก อาคารสำนักงาน ฝั่ง Hong Kong
วิว Victoria Harbour ช่วงใกล้ๆจะมืด
Clock Tower
วิว Victoria Harbour ตอนกลางคืน
Clock Tower
ท่าเรือ Star Ferry ฝั่ง Tsim Sha Tsui
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ตารางเวลา และอัตราค่าโดยสาร ได้ที่ http://www.starferry.com.hk/en/home
ข้างกลับแว่ะไปทานอาหารค่ำที่ร้าน Jade Garden Chinese Restaurant อยู่ที่ ชั้น 4 อาคาร Star House, 3 Salisbury Road, Tsim Sha Tsui, Kowloon
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 23.30 น. (จันทร์ ถึง เสาร์)
: 10.00 – 23.00 น. (อาทิตย์)
เว็บไซด์ของร้าน Jade Garden Chinese Restaurant -> http://www.maximschinese.com.hk/eng/restaurant/outlet_facts.aspx?sId=22
อาหารที่สั่งมาทาน B.B.Q. Pork อร่อยสุด นอกนั้นรสชาติพอได้ แต่ไม่ถึงกับต้องเป็นจานที่ห้ามพลาดครับ
ทานอาหารเสร็จแล้วนั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Tsim Sha Tsui ไปลงที่สถานี Causeway Bay เพื่อขึ้นรถ Shuttle Bus กลับโรงแรม Cosmopolitan
วันที่ 4
ช่วงเช้า นั่งรถเมล์จากหน้าโรงแรม ไปย่าน Central สภาพภายในรถเมล์(ปรับอากาศ)ฮ่องกง มีป้ายด้านหน้ารถ บอกป้ายที่จะจอดถัดไปด้วย ภายในตัวรถ ดูสบายๆ ไม่มืดทึบเหมือนของไทย
ยามเช้า แถวๆย่าน Central ดูเงียบสงบมาก
ถนน D’aguilar ย่าน Central ตอนเช้าๆ ไม่ค่อยจะมีคนเลย ผิดกับตอนสายๆ บ่ายๆ มาก เดินจากจุดนี้ไปเรื่อยๆ จนถึง Mid-Level Escalator ซึ่งเป็นบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 800 เมตร
ออกจาก Mid-Level Escalator ตรงช่วงถนน Queen’s ย่าน Central
Mid-Level Escalator บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 800 เมตร
เดินไปตามถนน Queen’s เลี้ยวซ้ายจะเจอห้าง Pedder Building ห้างดังอีกห้างหนึ่งแถวย่าน Central
จากถนน Pedder แล้วเลี้ยวขวาไปยังถนน Des Voeux ไปเรื่อยจนถึง ที่ Statue Square
รูปปั้น Sir. Thomas Jackson ที่ Statue Square (Sir. Thomas Jackson เป็นอดีตผู้จัดการของธนาคาร HSBC ในช่วงปี ค.ศ. 1870)
สวนหย่อม ที่ Statue Square
HSBC Headquarters Building กับ Standard Chartered Bank Building
The Cenotaph (อนุสรณ์สถานที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1923 อุทิศให้กับผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2) และ The Legislative Council Building (รัฐสภาฮ่องกง เป็นอาคารเก่าสไตล์โคโลเนียลที่มียอดโดมแบบนีโอคลาสสิค) อาคารด้านหลังเป็น Bank of China Tower, Cheung Kong Centre และ HSBC Headquarters Building
The Cenotaph และ The Legislative Council Building
The Cenotaph และ The Legislative Council Building โดยมีฉากหลังเป็นอาคาร HSBC Headquarters Building และ Standard Chartered Bank Building
The Cenotaph and The Legislative Council Building อาคารด้านหลังเป็น Two International Finance Centre
Bank of China Tower, Cheung Kong Centre และ HSBC Headquarters Building
ขากลับ นั่งรถ Tram จากย่าน Central กลับมาแถว Time Square เพื่อขึ้นรถ Shuttle Bus กลับโรงแรม Cosmopolitan เพื่อกลับไป Check Out
หลังจาก Check Out แล้วไปเดินเล่นที่ห้าง Langham Place ย่าน Mong Kok (สถานี Mong Kok ทางออก C)
เว็บไซด์ของห้าง Langham Place -> http://www.langhamplace.com.hk/en/
ภายในห้าง Langham Place ย่าน Mong Kok ก็จะมีการตกแต่งภายในห้างเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนเหมือนกัน
ขึ้นไปทานอาหาร ที่ Food Court บนห้าง Langham Place
ร้าน Xiao Taipei บนห้าง Langham Place เป็นร้านอาหารไต้หวัน ดูจากเมนูแล้ว มีหลายอย่างที่น่าทานเหมือนกัน
Marinated Boiled Egg Rice Set with Marinated Minced Pork ร้าน Xiao Taipei เป็นข้าวราดผัดหมูสับหมักกับไข่ต้ม ดูจืดๆแต่ก็โอเค
ร้านของหวาน Honeymoon Dessert บนห้าง Langham Place เป็นร้านขนมหวานชื่อดังของฮ่องกง มีหลายสาขา และมีสาขาในต่างประเทศด้วย
บรรยากาศร้าน Honeymoon Dessert เป็นร้านที่เหมาะกับวัยรุ่นอีกแล้ว
Mango Pancake ของขึ้นชื่อของร้านนี้ อร่อยดีครับ
หลังจากทานอาหารมื้อสุดท้ายที่ฮ่องกงเสร็จแล้ว กลับโรงแรม ไปเอากระเป๋า แล้วเรียก Taxi ไปที่ ท่าเรือ Hong Kong Macau Ferry Terminal ตึก Shun Tak เพื่อนั่งเรื่อ Ferry ไปยังมาเก๊า
ตู้ขายตั๋วเรือ Ferry ของ Turbojet แต่ไม่ได้ใช้บริการน่ะ ไปซื้อที่ Counter ขายตั๋วตามปกติครับ
ใช้บริการเรื่อ Ferry ของ Turbojet ไปยังมาเก๊า โดยไปขึ้นฝั่งมาเก๊า ที่ท่าเรือ Macau Ferry Terminal (ค่าโดยสาร 163 เหรียญ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ตารางเวลา และอัตราค่าโดยสาร ได้ที่ https://www.turbojet.com.hk/en/
ถ้าหากจะข้ามเรือไปยังมาเก๊า ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ระวังสักนิด อาจจะไม่ได้รอบที่ต้องการได้ เพราะคนจะข้ามไปเล่นการพนันที่มาเก๊า ค่อนข้างเย่อะครับ
ภาคพิเศษ รถ Tram บนเกาะฮ่องกง http://www.wintersea.net/2016/07/tram-the-old-public-transport-in-hong-kong/
ขอขอบคุณทุกท่านที่แว่ะเข้ามาเยี่ยมชมนะครับ
อย่าลืมติดตามตอนต่อไป พาชมเมืองมรดกโลก มาเก๊า นะครับ