Chill Out @ Singapore ตอนที่ 1

BY IN AEC, Singapore NO COMMENTS YET , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

สิงคโปร์ ประเทศหรือเกาะเล็กๆ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย และมาเลเซีย เป็นประเทศที่เป็นเป้าหมายแรกๆ ของนักเดินทางท่องเที่ยวที่เริ่มออกเดินทางผจญภัยในต่างแดน

DSC_0000

สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีการคมนาคมภายในประเทศสะดวกมากมาย การสื่อสารโดยทั่วไป ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อาหารของกินหลากหลายอร่อยไม่แพ้ที่อื่นๆ มีวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งวัฒนธรรมจีน อินเดีย มาเลย์ รวมถึงวัฒนธรรมที่มาจากทางตะวันตก ที่สิงคโปร์ จะมีชาวตะวันตกมาทำงานที่นี้เป็นจำนวนมาก เสมือนเป็นศูนย์กลางของบริษัทต่างชาติ ในภูมิภาคเอเเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีห้างสรรพสินค้ามากมาย กระจายอยู่ทั่วในเขตเศรษฐกิจ การเดินทางมาสิงคโปร์ครั้งนี้ นับก็เป็นครั้งที่ 6 แล้ว รีวิวครั้งนี้ เป็นการรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้เดินทางไปเยี่ยมชมมาใน 2-3 ครั้งหลังสุด ทำให้รีวิวนี้อาจจะมีความยาวสักหน่อยนะครับ (รีวิวนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ตอนนะครับ ตอนแรกจะเป็นส่วนของวันที่ 1 และ 2 ส่วนตอนที่ 2 จะเป็นของวันที่ 3 และ 4 ครับ)

DSC_0001

วันที่เดินทาง 11-14/07/2013

วันแรก ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง (Don Mueang International Airport (DMK)) เวลา 7.05 น. ด้วยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD2939 ถึงท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Changi Airport Singapore (SIN)) เวลาประมาณ 10.25 น.

เมื่อไปถึงท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Changi Airport Singapore (SIN)) ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาหาซื้อ Internet Sim แบบ Micro Sim ที่ Counter UOB ที่อยู่ภายในสนามบิน (ราคา ณ ตอนนั้น แบบ Micro Sim 18 เหรียญ แบบ Nano Sim ประมาณ 50 เหรียญ) หลังจากนั้น เดินทางเข้าเมือง ด้วยรถไฟฟ้า โดยมาลงที่สถานี Clarke Quay เพื่อ Check In ที่ Fragrance Hotel – Riverside โดยโรงแรมนี้ จะอยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามกับห้าง Central ใกล้ๆโรงแรม ก็จะมีร้านอาหารดังๆ อยู่บ้าง เช่น Songfa Bak Kut Teh และ Jumbo Seafood

หลังจาก Check In เรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปเดินเล่น ช็อปปิ้ หาของกิน แถวๆ ถนน Orchard ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งแหล่งใหญ่ ของสิงคโปร์ โดยนั่งรถไฟฟ้า มาลงที่สถานี Orchard และออกมาทางห้าง ION Orchard

ร้าน Awfully Chocolate ภายในห้าง ION Orchard ร้านขาย Chocolate หน้าตาดูน่าทานดีเหมือนกันครับ

DSC_A002_9639

ร้าน Mei Heong Yuen Dessert ที่ห้าง ION Orchard ร้านขนมหวานคล้ายน้ำแข็งใส มีทั้งหมด 4 สาขา สาขาแรกและดั้งเดิมจะอยู่ที่ Chinatown (Temple street) สาขาที่ 2 อยู่ใน ION Orchard Unit B4 – 34 (Orchard Road) สาขาที่ 3 อยู่ที่ Chinatown Point Outlet และสาขาล่าสุดอยู่ที่ 321 Clementi Outlet (Web Site : http://www.meiheongyuendessert.com.sg/)

DSC_A003_0036

Mango & Strawberry Snow Ice น้ำแข็งใสแบบลูกครึ่ง โดยจะราดน้ำมะม่วงกับน้ำสเตอบอรี่บนน้ำแข็งใส เสริฟพร้อมกับเนื้อมะม่วง กับสเตอบอรี่ด้วย

DSC_A004_9651

Durian Snow Ice น้ำแข็งใส ราดด้วยน้ำทุเรียน

DSC_A006_9653

หลังจากทานของหวานเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่นถ่ายรูป บริเวณริมถนน Orchard

Shaw House ข้างในจะมีห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Isatan และโรงภาพยนตร์สุดฮิตของสิงคโปร์ Lido มาเปิดให้บริการ

DSC_D1001_9675

ด้านหน้าห้าง ION Orchard

DSC_D1002_9681

หุ่นหลากสี ด้านหน้าห้าง ION Orchard

DSC_D1003_9692

ด้านหน้าห้าง Wisma Atria

DSC_D1004_9695

ห้าง Ngee Ann City ด้านในจะมี ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง Takeshimaya, ร้าน Kinokuniya ร้านขายหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในแถบอาเซียน

DSC_D1005_9698

Mandarin Gallery

DSC_D1008_9717

หลังจากเดินเล่นแถวถนน Orchard สักพัก ก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรม

และ ในช่วงเย็น ออกไปทาน บะกุ๋ดเต๋ เจ้าอร่อยเจ้าหนึ่ง ในสิงคโปร์ Ng Ah Sio (Rangoon Road) สาขาที่ไปทานอยู่บนถนน Rangoon นั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Farrer Park ออก ทางออก B เดินไปตามถนนประมาณ 1 ป้ายรถเมล์ บะกุ๋ดเต๋ ร้านนี้ ถือว่ารสชาติใช้ได้ครับ น้ำซุปรสชาติเผ็ดร้อนของพริกไทยดีครับ มื้อนี้หมดไป 25.70 เหรียญ

DSC_0002

DSC_D1008_9717_5

เมนู, ผ้าเย็น และน้ำจิ้ม

DSC_D1008_9717_1

Spare Pork Rib Combo ราคา 7.00 เหรียญ อร่อยดี น้ำซุปเผิดพริกไทยดี ชอบมากๆ

DSC_D1008_9717_2

Yiu Chai (Lettuce) ราคา 4.00 เหรียญ

DSC_D1008_9717_3

Pork Ribs Soup ราคา 5.50 เหรียญ

DSC_D1008_9717_4

หลังจากทานอาหารกันอิ่มแล้ว ไปชม Fountain of Wealth ที่ Suntec City กันครับ โดยนั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Esplanade ออก ทางออก A เล้วเดินเข้าไปในตัวตึก Suntec City การแสดงเลเซอร์โชว์ ที่ Fountain of Wealth จะมีประมาณ 3 รอบ คือ 20.00 น., 20.30 น. และ 21.30 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

DSC_0003

Suntec City เป็นกลุ่มอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมา ตามหลักของฮวงจุ้ย ซึ่งกลุ่มอาคาร Suntec City นี้ ถูกสร้างโดยกลุ่มนักธุรกิจชาวฮ่องกง

Fountain of Wealth มีลักษณะเป็นวงกลมขนาดใหญ่ มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง โดยน้ำพุนี้ ได้ถูกจัดให้เป็นน้ำพุที่สูงที่สุดในโลก โดยมีความสูงของน้ำพุอยู่ที่ประมาณ 30 เมตร

DSC_D1008_9718_0215

DSC_D1008_9718_0217

ขากลับ ก่อนเข้าไปพักผ่อนที่โรงแรม แวะเข้าไปชม Clarke Quay แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิป ของหนุ่มสาวสิงคโปร์ โดยนั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Clarke Quay ซึ่งโรงแรมที่พัก ก็ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ นี้เหมือนกันครับ

DSC_0004

Clarke Quay ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำสิงคโปร์ มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี ในอดีตบริเวณนี้ จะเป็นท่าเทียบเรือ ที่ใช้การในขนถ่ายสินค้าจากสำเภาโบราณ ที่แล่นมาจากทั้งตะวันออกและตะวันตก โดยทั้งสองฝั่งแม่น้ำ จะเต็มไปด้วยโกดังสินค้า ในปัจจุบันโกดังสินค้าเหล่านั้น ถูกปรับเปลี่ยนปรับปรุงมาเป็น ร้านอาหาร ผับ บาร์ และแหล่งบันเทิง สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืน

DSC_D1008_9718_0462

DSC_D1008_9718_0464

DSC_D1008_9718_0465

ลานน้ำพุ ภายใน Clarke Quay

DSC_D1008_9718_0471

DSC_D1008_9718_0472

วันที่สองของทริป ออกกำลังกายตอนเช้า ด้วยการออกไปเดินเล่นชมเมือง โดยนั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานที่ Bras Basah แล้วค่อยๆ เดินชมอาคารต่างๆ ย้อนกลับมาทางโรงแรมที่พัก

DSC_0005

จากสถานี Bras Basah เดินมาที่ National Museum of Singapore (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสิงคโปร์) โดย National Museum of Singapore (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสิงคโปร์) เปิดให้ชมในเวลา 10.00 – 18.00 น. ค่าเข้าชมประมาณ 10 เหรียญ

DSC_D2001_9761

DSC_D2002_9767

DSC_D2004_9774

เดินผ่านด้านหน้า National Museum of Singapore ก็จะมาเจอทางเข้า Fort Canning Park

DSC_D2008_9792

ต้นไม้คู่กันต้นใหญ่ ภายใน Fort Canning Park

DSC_D2005_9787

เก้าอี้นั่งสิงโต ภายใน Fort Canning Park

DSC_D2006_9789

ออกจาก Fort Canning Park มาทาง National Museum of Singapore (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสิงคโปร์)

DSC_D2009_9794

DSC_D2011_9797

จาก National Museum of Singapore เดินข้ามถนนมาทาง Singapore Management University (SMU)

ฝั่งตรงข้าม SMU จะเป็น Singapore Art Museum (SAM) โดยจะเปิดให้ชมในวันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 19.00 น. ยกเว้นวันศุกร์ จะเปิดเวลา 10.00 – 21.00 น. ค่าเข้าประมาณ 10 เหรียญ

DSC_D2012_9800

DSC_D2013_9807

สระน้ำ บริเวณด้านหน้า ของ Singapore Management University (SMU) จะมีน้ำพุขนาดเล็กอยู่ตลอดแนวด้านข้าง

DSC_D2014_9813

Li Ka Shing Library ห้องสมุด ของ Singapore Management University

DSC_D2015_9814

หลังจากนั้น เดินไปตามถนน Bras Basah ก็จะเจอ Roman Catholic Cathedral of the Good Shepherd ซึ่งเป็นโบส์ถเก่าแก่แห่งหนึ่งในสิงคโปร์ สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1847

DSC_D2016_9819

DSC_D2017_9830

เดินผ่านทะลุโบส์ถ มาที่ถนน Victoria จะเห็น Chijmes อยู่ฝั่งตรงข้ามโบส์ถ

DSC_D2028_9861

Chijmes อดีตเป็นโรงเรียนคอนแวนต์สตรี แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่มชั้นยอดแห่งหนึ่ง ของสิงคโปร์ มีอาหารหลากหลายชนิด นอกจากนี้ ในตอนกลางคืน ยังมีบาร์ไวน์ ผับ ให้นั่งดื่มกันชิลอีกด้วย

DSC_D2020_9839

DSC_D2021_9840

DSC_D2022_9843

DSC_D2025_9850

DSC_D2026_9854

ออกจาก Chijmes เดินไปตามถนน Victoria ต่อด้วยถนน Hill

DSC_0006

ผ่าน Singapore Chinese Chamber of Commerce ซึ่งเป็น หอการค้าจีนในประเทศสิงคโปร์

DSC_D2029_9879

DSC_D2031_9884

เยื้องๆกับ หอการค้าจีนในประเทศสิงคโปร์ จะเป็น Armenian Apostolic Church of St.Gregory the Illuminator ซึ่งเป็นโบส์ถเก่าแก่แห่งหนึ่งในสิงคโปร์ สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1835

DSC_D2032_9889

DSC_D2033_9890

DSC_D2034_9897 DSC_D2035_9903

ออกจาก Armenian Apostolic Church of St.Gregory the Illuminator ไปตามถนน Hill ก็จะเจอกับ Central Fire Station / Civil Defence Heritage Gallery ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงผลงานของหน่วยงานป้องกันฝ่ายพลเรือน (Civil Defence Heritage Gallery) ตั้งอยู่ใจกลางกองดับเพลิง ที่นี้จะมุ่งเน้นให้เห็นถึงความภาคภูมิใจและการพัฒนาอันยาวนานของการป้องกันประเทศ และ กองดับเพลิง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีรถดับเพลิงแบบต่างๆ อุปกรณ์ดับเพลิง เครื่องแต่งกายนักดับเพลิง และฉากการจำลองความช่วยเหลือในสถานการณ์แบบต่างๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วย โดยจะเปิดให้ชมวันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชมฟรี

DSC_D2036_9910

ถัดจาก Central Fire Station เข้าไปทางถนน Coleman จะเป็น Singapore Philatelic Museum เป็นพิพิธภัณฑ์แสตมป์แห่งชาติสิงคโปร์ ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1997 เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับไปรษณีย์ และ แสตมป์ของประเทศสิงคโปร์ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 -19.00 น. (ยกเว้นวันจันทร์เปิด 13.00 – 19.00 น.) ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 5 เหรียญ เด็ก 4 เหรียญ

DSC_D2037_9911

DSC_D2038_9913

DSC_D2039_9919

Freemason Hall & the Masonic Club

DSC_D2040_9920

DSC_D2041_9922

เดินย้อนกลับมาทาง Central Fire Station / Civil Defence Heritage Gallery ไปตามถนน Hill อีกครั้ง

DSC_D2043_9928

DSC_D2044_9933

DSC_D2045_9935

DSC_D2046_9942

DSC_0007

MICA Building ความโดดเด่นของตึกนี้ ก็คือ สีสันของหน้าต่าง ทั้งหมด 911 บาน แต่ละบานมีสีสันสดใส ตึก MICA Building นี้ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติ

DSC_D2047_9947

DSC_D2048_9951

DSC_D2049_9962

สะพาน Elgin ระหว่างเดินกลับโรงแรม

DSC_D2050_9968

Singapore River

DSC_D2051_9970

ห้าง Central ใกล้ๆ โรงแรมที่พัก

DSC_D2052_9973

ในตอนบ่ายตั้งใจออกมาทาน โรตี มะตะบะ ที่ ร้าน ZAM ZAM ซึ่งอยู่แถวๆ Bugis โดยนั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Bugis ออก ทางออก Raffles Hospital (Exit B) เดินมาประมาณ 10 นาที ก็จะถึง ร้าน ZAM ZAM แต่เมื่อไปถึง ร้านปิดบริการในช่วงบ่าย เลยอดทาน

DSC_0008

ฝั่งตรงข้ามร้าน จะเป็น Sultan Mosque ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ มัสยิดแห่งนี้ ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1928

DSC_D2054_9986

ถนนบัสโซราห์ (Bussorah Street) เป็นถนนที่อยู่ด้านหลัง Sultan Mosque

DSC_D2055_9992

DSC_D2056_9994

จากถนนบัสโซราห์ เดินมายัง Haji Lane ถนนสายอาร์ต ตั้งอยู่ภายในถนนของชาวอาหรับในประเทศสิงคโปร์ เป็นย่านที่มีชีวิตชีวาที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของอิสลาม สุลต่าน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ตลาดที่นี้ขายสินค้าราคาถูก เส้นทางทั้งสองข้างทางถนนเอง ก็เต็มไปด้วยสีสัน ลวดลายบนกำแพงสไตล์ Graffiti และมีการออกแบบบ้านที่เป็นเอกลักษณ์

DSC_D2057_0003

DSC_D2058_0008

DSC_D2060_0014

DSC_D2061_0021

DSC_D2062_0022

DSC_D2063_0023

DSC_D2064_0024

จาก Haji Lane นั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Harborfront ออก ทางออก E และเดินเข้าไปในห้าง Vivo City ขึ้นบันได้เลื่อนไปชั้น 3 เพื่อใช้บริการ Sentosa Express เดินทางข้ามไปยังเกาะ Sentosa (การเดินทางไปเกาะ Sentosa สามารถไปได้ทั้งหมด 4 ทาง คือ Sentosa Express (รถไฟ สามารถใช้ EZ-Link ได้ ประมาณ 4 เหรียญ), Cable Car (กระเช้าลอยฟ้า), รถประจำทาง หรือ ใช้ทางเดิน Sentosa Boardwalk ที่เชื่อมระหว่างตึก Vivo City กับเกาะ Sentosa) ในระยะหลังๆ ที่ไปเกาะ Sentosa มักใช้บริการ Sentosa Express สะดวกดี และไม่แพงด้วย

จากบนห้าง Vivo City จะมองเห็น Resort World Sentosa อยู่ไม่ไกล

DSC_D2068_0041

สวนหย่อม ที่อยู่บนห้าง Vivo City

DSC_D2069_0042

นั่ง Sentosa Express ข้ามไปเกาะ Sentosa โดยมีจุดหมายอยู่ที่ Resort World Sentosa ซึ่งจะต้องลงที่สถานี Waterfront

DSC_D2070_0045

แผนที่ Resort World Sentosa

DSC_0009

เดินลงมาจากสถานี Waterfront ก็จะเจอ Lake of Dreams ซึ่งในตอนกลางคืน ที่ตรงนี้จะมีการแสดงแสงสีเสียง

DSC_D2071_0046

DSC_D2071_0046_0009

จาก Lake of Dreams สามารถเดินขึ้นไปด้านบน เพื่อไป Merlion ตัวใหญ่สุด ที่เกาะ Sentosa ได้

DSC_D2071_0046_0023

DSC_D2071_0046_0037

DSC_D2071_0046_0054

ลูกโลก จุดถ่ายรูปยอดนิยม ด้านหน้า Universal Studio Singapore

DSC_D2071_0046_0085

DSC_D2071_0046_0102

DSC_D2071_0046_0105

เข้ามาชมภายใน Universal Studio Singapore กันครับ ค่าเข้าชม 74 เหรียญ (รูปภายใน Universal Studio Singapore เป็นรูปที่ได้เข้าไป ในครั้งก่อนหน้านี้ครับ)

แผนที่โซนต่างๆ ภายใน Universal Studio Singapore

DSC_0010

(ที่มา : http://www.rwsentosa.com/portals/0/RWS%20Revamp/USS/Visitor%20Info/RWS-UniversalStudiosSingapore-ParkMap.pdf)

โซน Mardagascar

DSC_D2071_0046_0580

DSC_D2071_0046_0576

DSC_D2071_0046_0589

โซน Far Far Away : Shrek 4-D Adventure

DSC_D2071_0046_0603

โซน The Lost World

DSC_D2071_0046_0636

DSC_D2071_0046_0649

โซน Ancient Egypt

DSC_D2071_0046_0727

DSC_D2071_0046_0742

โซน Sci-Fi City

DSC_D2071_0046_0769

Bumblebee รถยอดนิยม จากภาพยนต์เรื่อง Transformers ในโซน Sci-Fi City 

DSC_D2071_0046_0786

หุ่นยนต์จากภาพยนต์เรื่อง Transformers ในโซน Sci-Fi City

DSC_D2071_0046_0792

Transformers The Ride ในโซน Sci-Fi City 

DSC_D2071_0046_0795

โซน New York

DSC_D2071_0046_0799

DSC_D2071_0046_0825

DSC_D2071_0046_0833

DSC_D2071_0046_0839

โซน Hollywood : Mel’s Dinettes

DSC_D2071_0046_0844

โซน Hollywood

DSC_D2071_0046_0860

DSC_D2071_0046_0877

DSC_D2071_0046_0885

DSC_D2071_0046_0887

ออกจาก Universal Studio Singapore แล้ว ไปชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ กันต่อครับ

บริเวณใกล้ๆ กับที่แสดง Crane Dance ในตอนกลางคืน

DSC_D2073_0054

S.E.A. Aquarium ทางเข้า Aquarium จะอยู่ทางเดียวกันกับพิพิธภัณฑ์ The Maritime Experiential Museum ค่าเข้าชม 32 เหรียญ ซึ่งจะรวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ The Maritime Experiential Museum ไว้ด้วย เปิดให้ชมทุกวันเวลา 10.00 – 19.00 น. ช่วงที่ไปประมาณ 17.00 น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่คนไม่ค่อยมากเท่าไหร่ แต่หลังจากได้เข้าไปชมแล้ว รู้สึกว่า เป็นการเข้าชมแบบเร่งรีบไปหน่อย ถ้าจะให้ดี ควรจะเข้าชมเวลาประมาณ 16.00 – 16.30 น. น่าจะกำลังดี

DSC_D2072_0052

เดินเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ The Maritime Experiential Museum กันก่อนครับ

DSC_D2074_0058

DSC_D2074_0058_0947

DSC_D2074_0058_0996

DSC_D2074_0058_0997

ลงบันไดเลื่อนมาด้านล่าง จะมีส่วนของ Museum ต่อครับ ก่อนที่จะถึงทางเข้าไปใน S.E.A. Aquarium

DSC_D2074_0058_0960

DSC_D2074_0058_0956

DSC_D2074_0058_0972

DSC_D2074_0058_0976

เข้ามาชมภายใน S.E.A. Aquarium กันครับว่า มีสัตว์น้ำอะไรให้ชมกันบ้าง ซึ่งภายใน S.E.A. Aquarium จะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ตามน่านน้ำทะเล มหาสมุทร ต่างๆ ทั่วโลก อาทิ เช่น Ocean Journey Zone, Open Ocean Zone, Strait of Malacca & Andaman Sea Zone, South China Sea Zone เป็นต้น

แผนที่โซนต่างๆ ภายใน S.E.A. Aquarium

DSC_0013

Dolphins @ Dolphin Island

DSC_D2082_0159

Schooling Fish

DSC_D2084_0183

DSC_D2085_0191

Emperor Nautilus @ Ocean Journey Zone

DSC_D2086_0209

Sea Jellies @ Ocean Journey Zone

DSC_D2087_0216

DSC_D2088_0218

Giant Oceanic Manta Ray @ Open Ocean Zone

DSC_D2096_0272

Open Ocean Zone เป็นตู้ปลาขนาดใหญ่มาก

DSC_D2097_0276

Schooling Fish

DSC_D2103_0316

ปลา … @ S.E.A. Aquarium

DSC_D2104_0320

DSC_D2105_0321

DSC_D2106_0330

Copperbanded Butterflyfish

DSC_D2107_0332

Corals, Fishes and Shutterbugs @ Strait of Malacca & Andaman Sea Zone

DSC_D2110_0351

Volitan Lionfish (ปลาสิงโต) @ South China Sea Zone

DSC_D2111_0368

หลังจากชมปลา และสัตว์น้ำต่างๆ แล้ว ตอนเดินออกมาจาก S.E.A. Aquarium ก็จะต้องเดินผ่านพิพิธภัณฑ์ The Maritime Experiential Museum อีกครั้ง ก่อนที่จะขึ้นบันไดเลื่อน ไปยังทางออกด้านบน

DSC_D2114_0419

DSC_D2115_0421

The Forum, Resort World Sentosa

DSC_D2116_0438

DSC_D2117_0446

หน้าร้าน Candylicious ที่ Resort World Sentosa

DSC_D2118_0453

ด้านหน้า Universal Studio Singapore ตอนใกล้มืด

DSC_D2119_0457

Lake Of Dream

DSC_D2120_0481

DSC_D2121_0489

DSC_D2124_0537

น้ำพุ ระหว่างทางเดินขึ้นไป Merlion ตัวใหญ่ ใน Sentosa

DSC_D2122_0503

โรงแรมต่างๆ ภายใน Resort World Sentosa

DSC_D2123_0521

ลานน้ำพุใน Resort World Sentosa ใกล้ๆกับ ทางเข้า Universal Studio Singapore เด็กๆ มักชอบมาเล่นเดินผ่านน้ำกันอย่างสนุกสนาน

DSC_D2127_0579

DSC_D2128_0588

การแสดง Crane Dance ที่ Resort World Sentosa โดยจะแสดงทุกวันเวลา 21.00 น. (ยกเว้นวันอังคาร ถึง พฤหัสบดี) ใช้เวลาแสดงประมาณ 10 นาที ไม่เสียค่าชม

DSC_D2128_0588_0390

DSC_D2128_0588_0391

DSC_D2128_0588_0392

DSC_D2128_0588_0393

DSC_D2128_0588_0394

จบจากการแสดง Crane Dance มาต่อด้วย การแสดง Lake of Dreams ที่ Resort World Sentosa โดยจะแสดงทุกวันเวลา 21.30 น. ใช้เวลาแสดงประมาณ 10 นาที ไม่เสียค่าชม

DSC_D2128_0588_0429

DSC_D2128_0588_0432

DSC_D2128_0588_0435

DSC_D2128_0588_0437

DSC_D2128_0588_0438

DSC_D2128_0588_0439

DSC_D2128_0588_0440

DSC_D2128_0588_0444

เมื่อจบการแสดง Lake of Dreams แล้ว ก็เดินทางออกจาก Resort World Sentosa ซึ่งถ้ากลับในเวลานี้ คนจะเย่อะมาก เสียเวลารอรถ Sentosa Express เพื่อกลับไปยังห้าง Vivo City นานหน่อยครับ

จาก Resort World Sentosa แวะหาติ่มซำทานกันแถวๆ China Town โดยนั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Chinatown ออก ทางออก Pagoda Street แล้วเดินเลี้ยวขวา ไปทาง Temple Street ทะลุไปยัง Smith Street

DSC_0011

ร้าน Tak Po ร้านติ่มซำ ที่มีชื่ออีกหนึ่งแห่งใน Chinatown จากการได้ลองชิมดูแล้ว รสชาติก็ธรรมดาๆครับ มื้อนี้หมดไป 23.00 เหรียญ

DSC_D2128_0588_B004_0623

เมนูติ่มซำ

DSC_D2128_0588_B006_0594

เมนูอาหารจีน

DSC_D2128_0588_B007_0595

Mixed Pork Congee

DSC_D2128_0588_B008_0598

Har Mai

DSC_D2128_0588_B009_0611

Prawn and Mushroom Dumpling

DSC_D2128_0588_B010_0613

Mushroom Chicken

DSC_D2128_0588_B011_0617

Har Gao

DSC_D2128_0588_B012_0619

China Town ในตอนกลางคืน ร้านขายของยังมีเปิดอยู่อีกหลายร้าน

DSC_D2129_0628

DSC_D2130_0629

หลังจากทานติ่มซำแล้ว ก็มาเดินย่อยอาหารกันที่ อ่าวมารีน่า (Marina Bay) โดยนั่งรถไฟฟ้า มาลงที่สถานี Raffles Place ออก ทางออก H เดินไปทาง Singapore River แล้วเดินเลี้ยวขวา ไปทาง Fullerton Hotel ลัดเลาะด้านข้างโรงแรม ไปเรื่อยๆ จะเจอถนนใหญ่ ข้ามถนน ก็จะเจอ Merlion Park

DSC_0012

Esplanade – Theatres on the Bay โรงละคร รูปทรงแปลกตา คล้ายๆ หนามทุเรียน

DSC_D2131_0647

Singapore Flyer และ Marina Bay Sands

DSC_D2132_0653

Marina Bay Sands โรงแรมระดับ 5 ดาว ริมอ่าวมารีน่า มีทั้งห้างสรรพสินค้า คาสิโน ด้านบนมีจุดชมวิวที่สวยงามจุดหนึ่ง

DSC_D2133_0654

Wonder Full Show การแสดงส่วนที่เป็นน้ำพุ จะถูกจัดขึ้นที่ฝั่ง Marina Bay Sands โดยในวันอาทิตย์ ถึง วันพฤหัสบดี จะมี 2 รอบ คือ 20.00 น. และ 21.30 น. ส่วนวันศุกร์ เสาร์ จะมี 3 รอบ คือ 20.00 น., 21.30 น. และ 23.00 น. ใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที ไม่เสียค่าชม

DSC_D2136_0676

DSC_D2137_0677

DSC_D2139_0680

DSC_D2141_0686

DSC_D2142_0688

DSC_D2143_0690

Merlion Park เป็นจุดสัญญลักษณ์ของสิงคโปร์ คือ รูปปั้นสิงโตพ่นน้ำ ริมอ่าวมารีน่า
เมอร์ไลออน (Merlion) แปลว่า สิงโตทะเล มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1964 โดยนายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ (Mr.Fraser Brunner) สมาชิกคณะกรรมการฝ่ายของที่ระลึกและผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคลีฟ (Van Kleef Aquarium)

DSC_D2144_0697

DSC_D2150_0725

DSC_D2146_0707

The Fullerton Hotel เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1928 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค

DSC_D2145_0704

Esplanade – Theatres on the Bay

DSC_D2147_0708

Singapore Flyer และ Marina Bay Sands

DSC_D2148_0717

Marina Bay Sands

DSC_D2149_0718

ลานน้ำพุ ข้างๆ Clifford Pier

DSC_D2151_0732

DSC_D2152_0733

DSC_D2153_0736

DSC_D2154_0737

The Fullerton Hotel

DSC_D2157_0746

หลังจากย่อยอาหารด้วยวิวสวยๆ บริเวณอ่าวมารีน่าแล้ว ก็กลับไปพักผ่อนกันที่โรงแรมที่พักแถวๆ Clarke Quay ครับ 

ขอจบรีวิวในตอนแรก สำหรับ 2 วันแรกเพียงเท่านี้ครับ ส่วนตอนที่ 2 จะพาไปไหนบ้าง รอติดตามชมกันนะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ

Comments

comments