Chill Out @ Singapore ตอนที่ 2 (ตอนจบ)

BY IN AEC, Singapore NO COMMENTS YET , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

Chill Out @ Singapore ตอนที่ 2 เป็นตอนสุดท้ายครับ ซึ่งยังคงเป็นการเที่ยวชมเมืองสิงคโปร์ ในวันที่ 3 กับ 4 ครับ จะพาไปเที่ยวที่ไหน แวะที่ไหนกันบ้าง ลองติดตามดูละกันครับ

DSC_0001

วันที่เดินทาง 11-14/07/2013

วันที่ 3 ของทริปนี้ ช่วงเช้า จะพาไปเดินเล่นออกกำลังกายที่ Chinese Garden สวนจีน แห่งนี้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1975 ออกแบบโดย หยวนเซ็นยู (Yuen Chen Yu) สถาปนิกชาวไต้หวัน โดยใช้สถาปัตยกรรมและทิวทัศน์แบบตอนเหนือของจักรวรรดิจีน เปิดให้บริการตั้งแต่ 6.00 – 23.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม
การเดินทาง ให้นั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Chinese Garden ใช้ทางออก Chinese Garden

DSC_0002

ออกมาจากสถานีรถไฟฟ้า ที่ทางออก Chinese Garden เดินผ่านสนามหญ้า ที่ชาวสิงคโปร์ เอาไว้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นฟุตบอล ออกกำลังกาย 

DSC_D3002_0754

DSC_D3003_0755

DSC_D3004_0758

เดินผ่านมาสักพัก ก็จะถึงประตูทางเข้า Chinese Garden ซึ่งจะเป็นประตูทางเข้าสีแดง ต่อด้วยสะพานสีแดงเหมือนกัน จากประตูฝั่งนี้ จะมองเห็น เจดีย์ 7 ชั้น (7 Storey Pagoda) เด่นสง่าภายใน Chinese Garden

DSC_D3044_0882

DSC_D3043_0881

แผนที่ภายใน Chinese Garden

DSC_D3042_0876

จากประตูฝั่งนี้ เข้ามาด้านใน ก็จะเจอ เจดีย์ 7 ชั้น (7 Storey Pagoda) และ รูปปั้นฮีโร่ทั้ง 8 (8 Heroes)

DSC_D3005_0759

DSC_D3006_0761

DSC_D3007_0765

จาก เจดีย์ 7 ชั้น เดินตรงไปจนสุด แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ เดินไปเรื่อยก็จะเจอ เจดีย์คู่ (Twin Pagodas)

DSC_D3009_0769

DSC_D3010_0772

Stone Boat

DSC_D3012_0781

ผ่านเจดีย์คู่ไป ก็จะเป็น Garden Courtyard

DSC_D3013_0784

ภายใน Garden Courtyard

DSC_D3016_0798

ตรงข้ามกับ Garden Courtyard จะเป็นสะพาน White Rainbow ซึ่งเป็นทางเข้าสวนทางฝั่งตะวันตกของ Chinese Garden 

DSC_D3014_0790

White Rainbow Bridge วันนี้ มีคนมาถ่าย Pre-Wedding กันด้วยครับ

DSC_D3015_0793

สวนด้านหลัง ของ Garden Courtyard

DSC_D3018_0807

Garden of Fragrance

DSC_D3020_0810

Stone Boat จากฝั่งทางด้าน Tea House Pavilion

DSC_D3022_0813

Tea House Pavilion

DSC_D3024_0821

Confucius Statue (รูปปั้นขงจื้อ) ขงจื้อ เป็นนักคิดและนักปรัชญาสังคมที่มีชื่อเสียงของจีน คำสอนของขงจื๊อนั้น ฝังรากลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ

DSC_D3025_0827

สวนบอนไซ (Bonsai Garden)

DSC_D3029_0837

DSC_D3026_0829

DSC_D3027_0832

เดินวนกลับมาที่เดิม เจดีย์ 7 ชั้น และ รูปปั้น 8 ฮีโร่

DSC_D3030_0844

DSC_D3031_0847

DSC_D3037_0862

Confucius (ขงจื้อ) เป็นนักคิดและนักปรัชญาสังคมที่มีชื่อเสียงของจีน คำสอนของขงจื๊อนั้น ฝังรากลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ

DSC_D3032_0848

Qu Yuan (คุกง้วน หรือ ชีหยวน หรือ จูหยวน) กวีผู้รักชาติแห่งรัฐฉู่

DSC_D3033_0850

Guan Yu (กวนอู) ถูกยกย่องว่า เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์

DSC_D3034_0854

Hua Mulan (มู่หลาน) เป็นสตรีจีนในสมัยชุนชิว ที่มิได้มีตัวตนทางประวัติศาสตร์มากมายนัก แต่วีรกรรมของนาง ก็มีการเล่าขานกันต่อมาในบทกลอน เพราะเหตุใดจึงถูกบันทึกไว้ในบทกลอน ก็เพราะเหตุที่นางเปลื้องออกซึ่งอัตลักษณ์ของสตรี แต่งตนเป็นบุรุษเพศ ออกสนามรบเพื่อให้บิดาได้อยู่กับบ้าน เพราะถ้านางไม่ไป พ่อก็จะต้องไปแทน และนางก็รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายถึงสิบสองปี จนตราบถึงที่สุด อัตลักษณ์สิบสองปีในฐานะบุรุษห้าวหาญของนาง ก็ถูกทำลายลงด้วยตัวเอง เมื่อสงครามสงบ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นชายอีกต่อไป

DSC_D3035_0855

Yue Fei (งักฮุย หรือ เยว่ เฟย์) เป็นนักรบกู้ชาติคนสำคัญ มีชื่อเสียงมากผู้หนึ่งในประวัติศาสตร์ประเทศจีน มีชีวิตอยู่ในยุคราชวงศ์ซ่งใต้ เป็นแม่ทัพ ผู้ต่อต้านการรุกรานของชนเผ่าจิน ถูกใส่ความโดยศัตรูทางการเมืองจนต้องโทษประหารชีวิต หลังจากนั้นจึงได้รับยกย่องเป็นแบบอย่างแห่งความซื่อสัตย์ในวัฒนธรรมจีน

DSC_D3036_0858

Wen Tianxiang (เหวินเทียนเสียง) ถือเป็นขุนนางและนักกวีผู้มีชื่อเสียงเลื่องระบืออย่างยิ่งในฐานะผู้ยืนหยัดต่อต้านมองโกล และเป็นผู้ที่มีความซื้อสัตย์อย่างยิ่ง

DSC_D3038_0864

Zheng He (เจิ้งเหอ) มีนามเดิมว่าหม่าซันเป่า คนไทยรู้จักกันดีในนามว่า “ซำปอกง” นักเดินเรือที่มีชื่อเสียงที่สุด สมัยราชวงศ์หมิงของจีน

DSC_D3039_0866

Lin Zexu (หลินซีซู) ขุนนางที่เข้ามาทำการปราบปรามฝิ่นในดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล

DSC_D3040_0868

เจดีย์ 7 ชั้น (7 Storey Pagoda)

DSC_D3041_0875

สถานี Chinese Garden เป็นสถานีที่อยู่บนดินแห่งหนึ่ง ในจำนวนหลายๆ สถานี ที่อยู่นอกเมือง

DSC_D3045_0887

DSC_D3046_0889

DSC_D3047_0890

DSC_D3048_0891

จาก Chinese Garden จะพาไปเดินชมหมู่บ้านฮอลแลนด์ ที่สิงคโปร์ โดยนั่งรถไฟฟ้า มาลงที่สถานี Holland Village

DSC_0003

Holland Village “ชุมชนโบฮีเมีย” (Bohemian enclave) แห่งสิงคโปร์ หมู่บ้านฮอลแลนด์ (Holland Village) แห่งนี้ เป็นเสมือนชีวิตของชาวสิงคโปร์ขนาดย่อส่วน มีการผสมผสานอันน่าทึ่งระหว่างยุคสมัยเก่า และใหม่ มีร้านกาแฟโบราณ และตลาดสดที่แออัดยัดเยียด นอกจากนี้ยังมีบาร์ไวน์ที่หรูหรา และภัตตาคารที่ให้บริการอาคารค่ำชั้นเลิศ

DSC_D3049_0893

DSC_D3056_0912

สัญญลักษณ์ของ Holland Village

DSC_D3050_0896

ร้านค้า ร้านอาหาร ภายใน Holland Village ตอนเย็น ค่ำๆ น่าจะครึ้กครื้นยิ่งกว่านี้

DSC_D3051_0900

DSC_D3057_0917

DSC_D3058_0918

ร้าน Old Chang Kee ร้านขายของทอดชื่อดัง ของสิงคโปร์ ร้านนี้ ตั้งอยู่ภายใน สถานี Holland Village

DSC_D3061_0933

จาก Holland Village กลับเข้าไปยังโรงแรมที่พัก แล้วออกมาแถว Bugis อีกครั้ง เพื่อทานโรตี มะตะบะ ที่ ร้าน ZAM ZAM (ลงสถานี Bugis ออกทาง Raffles Hospital (Exit B) และเดินไปประมาณ 5-10 นาที)

DSC_0004

Sultan Mosque จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ร้าน ZAM ZAM ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ มัสยิดแห่งนี้ ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1928

DSC_D3062_0941

DSC_D3063_0944

Singapore Zam Zam เป็นร้านอาหารมุสลิม 2 คูหา 2 ชั้น ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก อยู่ตรงข้ามกับมัสยิด Sultan Mosque

DSC_D3063_0944_B015_0976

เข้าร้านแล้วเดินขึ้นมานั่งทานอาหารที่ชั้น 2 ครับ

ตู้เครื่องดื่มหลากหลายชนิด หลากสีสรร

DSC_D3063_0944_B017_0953

เครื่องเคียงที่นำมาเสริฟ เป็นน้ำราดแบบต่าง อันบนสุดน่าจะดีสุด

DSC_D3063_0944_B018_0956

Chicken Briyani ข้าวหมกไก่

DSC_D3063_0944_B019_0961

Chicken Murtabak มะตะบะไก่

DSC_D3063_0944_B020_0965

โดยทางร้าน จะมีเมนูอาหาร และราคาติดไว้อย่างชัดเจน ที่กำแพงร้านครับ

DSC_D3063_0944_B021_0968

สรุปแล้ว อาหารร้านนี้ ค่อนข้างจะจานใหญ่ ใครที่ไม่ค่อยชอบทานอาหารมุสลิม ไม่ชอบเครื่องเทศแรงๆ ไม่แนะนำให้ลอง เลี่ยนมากๆ ทานไม่หมดด้วยครับ

ย่านร้านค้าแถว Arab Street

DSC_D3065_0978

Sultan Mosque

DSC_D3066_0980

Haji Lane ถนนสายอาร์ต ที่ได้พาไปชม และเดินเล่นกันแล้ว ในวันที่ 2 ของทริปนี้ครับ

DSC_D3067_0982

Parkview Square เป็นอาคารสำนักงานในย่าย Bugis ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองก็อทแธมแห่งสิงคโปร์” เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของอาคารนี้คือ รูปปั้น และอนุสาวรีย์ของเหล่าบุคคลสำคัญของโลกในบริเวณ Open Plaza

DSC_D3070_0996

ร้านค้าแถวย่าน Bugis

DSC_D3071_0998

จากเดินด้านนอก ร้อนๆ เข้ามาเดินเย็นๆ ชมภายในห้าง Bugis Junction ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่าน Bugis

DSC_D3072_1003

DSC_D3073_1006

J.Co Donuts & Coffee ร้านโดนัท สัญชาติอินโดนีเซีย ภายในห้าง Bugis Junction (ณ ตอนนั้น ตอนนี้น่าจะไม่มีสาขานี้แล้ว)

DSC_D3073_1006_B023_1011

Hi Lychee (1.10 เหรียญ) และ Green Tease (1.10 เหรียญ)

DSC_D3073_1006_B024_1012

โดนัท กับเครื่องดื่ม ของร้าน J.Co Donuts & Coffee ก็อร่อยดีนะครับ

Tori Q Japanese Yakitori เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่ซื้อมาลองชิมเป็น Chicken Balls (ลูกชิ้นไก่ปิ้ง) กับ Pork (หมูปิ้ง) อร่อยดีครับ

DSC_D3073_1006_B025_1026

DSC_D3073_1006_B026_1032

Four Leaves ภายใน Bugis Juction เป็นร้านเบเกอรี่ ของสิงคโปร์ มีเค้กหลายหลายแบบ สีสัน หน้าตาน่าทานมากๆ

DSC_D3073_1006_B027_1036

DSC_D3073_1006_B028_1034

ออกจาก Bugis Junction ไปต่อกันที่ Chinatown

DSC_D3074_1048

นั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Chinatown ออก ทางออก A (Pagoda Street)

DSC_0005

Pagoda Street แหล่งของฝากในสิงคโปร์ ย่าน Chinatown

DSC_D3075_1053

DSC_D3076_1054

Chinatown Heritage Centre เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมา การใช้ชีวิตของชาวจีนในสมัยอดีต ที่เริ่มเข้ามาตั้งรกรากในสิงคโปร์ ภายในพิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ซึ่งอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ได้ถูกดัดแปลงมาจาก Shophouse ทั่วไป เปิดให้ชมเวลา 9.00 – 20.00 น. ค่าชม 10 เหรียญ

DSC_D3077_1055

เดินออกจาก Pagoda Street ไปทางด้านถนน Southbridge

DSC_D3079_1061

เลี้ยวขวาที่มุม Pagoda Street จะเจอ Sri Mariamman Temple ซึ่งเป็นวัดฮินดู ที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์

DSC_D3080_1066

ร้านค้าบนถนน Southbridge ย่าน Chinatown ตึกต่างๆ บนถนนนี้ แม้สีสรรจะไม่แรงมาก แต่ก็มีสีสรรบ้างพอสมควร

DSC_D3081_1068

DSC_D3082_1080

แวะทานอาหารที่ Maxwell Food Centre ศูนย์อาหารยอดนิยมย่าน Chinatown ภายในศูนย์อาหารจะมีร้านข้าวมันไก่ชื่อดัง Tian Tian Hainanese Chicken Rice เคยลองทานมานานมากแล้ว ไม่ค่อยชอบ ชอบข้าวมันไก่แบบไทยๆ มากกว่า

DSC_D3083_1085_B033_1195

ภายใน Maxwell Food Centre

DSC_D3083_1085_B034_1188

DSC_D3083_1085_B035_1180

Wu Xiang Guan Chang ร้านขายของทอดในศูนย์อาหาร ร้านนี้ คนขายพูดไทยได้

DSC_D3083_1085_B036_1088

DSC_D3083_1085_B037_1092

เติมพลังเสร็จแล้ว ใกล้ๆกับ Maxwell Food Centre จะเป็น Singapore City Gallery ภายในจะจัดแสดงผังเมืองของประเทศสิงคโปร์ เปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 9.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชมฟรี

DSC_D3110_1160

โมเดลผังเมืองของประเทศสิงคโปร์

DSC_D3084_1095

DSC_D3085_1096

DSC_D3086_1099

ผังเมืองของประเทศสิงคโปร์ยุคแรกๆ

DSC_D3087_1102

Vibrant Cities

DSC_D3088_1108

โมเดลผังเมืองของประเทศสิงคโปร์

DSC_D3089_1117

Periods of Progress 

DSC_D3090_1119

DSC_D3091_1120

Learning The Fundamentals 

DSC_D3092_1122

DSC_D3093_1123

Planning Sustainably 

DSC_D3094_1125

DSC_D3095_1127

Urban Design 

DSC_D3098_1131

Central Area Model โมเดลแสดงผังเมืองของประเทศสิงคโปร์

DSC_D3099_1137

DSC_D3100_1140

DSC_D3102_1142

DSC_D3103_1143

DSC_D3104_1145

DSC_D3105_1146

DSC_D3106_1147

จากชั้น 2 เดินลงมาชั้น 1 ภายใน Singapore City Gallery จะแสดงผังเมืองของประเทศสิงคโปร์ยุคแรกๆ

DSC_D3109_1151

DSC_D3107_1148

DSC_D3108_1150

ฝั่งตรงข้ามของ Singapore City Gallery จะเป็น Red Dot Museum อาคารพิพิธภัณฑ์สีแดงที่รวบรวมผลิตภัณฑ์แนวความคิดสร้างสรรที่ชนะการประกวด Red dot Awards ซึ่งรางวัลนี้ถือว่าเป็นรางวัลระดับโลก และ มีความสำคัญมากสำหรับผู้ที่เข้าประกวด เปิดวันจันทร์ อังคาร และ ศุกร์ เวลา 11.00 – 18.00 น. วันเสาร อาทิตย์ เปิด 11.00 – 20.00 น. ค่าเข้าชม 8 เหรียญ ไปครั้งนี้ไม่มีโอกาสเข้าชม ครั้งต่อๆไปจะลองหาโอกาสเข้าชมว่าภายในมีอะไรแสดงบ้างครับ

DSC_D3111_1165

เดินย้อนกลับมาทาง Maxwell Food Centre ฝั่งตรงข้ามของ Maxwell Food Centre จะเป็น
Buddha Tooth Relic Temple (วัดพระเขี้ยวแก้ว) วัดนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้ โดยการออกแบบ จะเป็นแบบ สถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง ด้านในจะมี 4 ชั้น แบ่งเป็นโซนต่างๆ เกี่ยวกับศาสนาพุทธ

DSC_D3115_1191

DSC_D3117_1198

เยื้องๆกับ Buddha Tooth Relic Temple เป็นถนน Erskine Road ย่าน Chinatown เป็นที่ตั้งของโรงแรมเก๋ๆ ที่ชื่อว่า Scarlet ตามแนวถนนนี้ กับ ถนน Ann Siang จะมีร้านน้ำชาเก๋ๆ น่านั่งอยู่หลายร้าน

DSC_D3118_1200

Sri Mariamman Temple ระหว่างเดินกลับไปที่สถานี Chinatown

DSC_D3120_1208

ร้านค้าบนถนน Southbridge

DSC_D3122_1214

Pagoda Street แหล่งของฝากในสิงคโปร์ ของฝากที่นี้ จะมีราคาถูกกว่าที่อื่นครับ

DSC_D3123_1215

ออกจาก Chinatown ไปนั่งชิงช้า ชมวิวอ่าวมารีน่า กันที่ Singapore Flyer โดยนั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Promenade ออก ทางออก A เปิดบริการเวลา 8.30 – 22.30 น. ค่าขึ้นชิงช้า 33 เหรียญ (รูปชุดนี้ มาจากการเดินทางครั้งก่อนหน้านี้ครับ)

DSC_0006

DSC_D3123_1215_0351

DSC_D3123_1215_0356

DSC_D3123_1215_0360

DSC_D3123_1215_0361

DSC_D3123_1215_0366

จาก Singapore Flyer ไปขึ้นชมวิวอ่าวมารีน่า ในมุมสูงกันที่ Sky Park ชั้นบนของ Marina Bay Sands โดยจาก Singapore Flyer สามารถเดินมา และข้ามสะพาน Helix มายัง Marina Bay Sands ได้ หรือ นั่งรถไฟฟ้า มาลงที่สถานี Bayfront ทางออก C วันจันทร์ถึงพฤหัส เปิดให้บริการ 9.30 – 22.00 น. ส่วนศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เปิดให้บริการ 9.30 – 23.00 น. ค่าขึ้นชมวิว 23 เหรียญ สามารถซื้อตั่วได้ที่ ชั้นใต้ดินของตึก 3 แนะนำให้มาช่วงบ่ายแก่ๆ ก่อนพระอาทิตย์ตก จะได้ชมบรรยากาศได้ทั้ง 2 แบบ (รูปชุดนี้ มาจากการเดินทางครั้งก่อนหน้านี้ครับ)

ภายใน Marina Bay Sands ตึก 3

DSC_D3123_1216_0379

วิวอ่าวมารีน่า มุมสูง จาก Sky Park

DSC_D3123_1216_0286

DSC_D3123_1216_0306

DSC_D3123_1216_0316

DSC_D3123_1216_0319

DSC_D3123_1216_0323

DSC_D3123_1216_0324

DSC_D3123_1216_0333

DSC_D3123_1216_0349

DSC_D3123_1216_0352

DSC_D3123_1216_0353

DSC_D3123_1216_0355

ชมวิวสวยๆกันเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาทางด้านหน้า The Shoppes ของ Marina Bay Sands เพื่อชมการแสดง Wonder Full Show การแสดงนี้ ใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที ไม่เสียค่าชม โดยวันอาทิตย์ ถึง วันพฤหัสบดี จะมี 2 รอบ คือ 20.00 น. และ 21.30 น. ส่วนวันศุกร์ เสาร์ จะมี 3 รอบ คือ 20.00 น., 21.30 น. และ 23.00 น.

DSC_D3123_1216_0385

DSC_D3123_1216_0397

DSC_D3123_1216_0398

จบจากการแสดง Wonder Full ก็ยังอยู่ที่บริเวณริมอ่าวมารีน่า ชมแสงสีเมืองสิงคโปร์ในคำคืนสุดท้ายก่อนกลับ

กลุ่มอาคารสำนักงาน กับ The Fullerton Hotel ริมอ่าวมารีน่า

DSC_D3125_1225

DSC_D3126_1233

DSC_D3128_1240

DSC_D3130_1248

DSC_D3132_1253

DSC_D3133_1255

The Fullerton Hotel

DSC_D3137_1263

DSC_D3127_1238

ร้าน Louis Vuitton ริมอ่าวมารีน่า

DSC_D3129_1244

Marina Bay Sands

DSC_D3131_1250

The Fullerton Hotel, Esplanade – Theatres on the Bay

DSC_D3134_1257

Esplanade – Theatres on the Bay

DSC_D3135_1258

DSC_D3136_1260

ระหว่างที่เดินเล่นชมวิวอ่าวมารีน่าอยู่นั้น ทางการสิงคโปร์ ได้มีการซ้อมการแสดงพลุ ที่ริมอ่าวมารีน่า ก่อนการแสดงจริงในการเฉลิมฉลองวันชาติสิงคโปร์ ก็ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมวันนี้ มีคนมาจับจองที่ แถวๆ ริมอ่าวเต็มกันไปหมด

DSC_D3138_1285

DSC_D3139_1300

หลังจากนั้น เดินข้ามไปยัง Gardens by the Bay เพื่อชมแสงสีของ Supertree ในตอนกลางคืน เดินไปเดินมาหลงหาทางออกไม่เจอ จนมั่วๆออกมาได้ ซึ่งยังไม่เคยได้เข้าไปในช่วงเวลากลางวัน เลยไม่ค่อยรู้ทาง ครั้งหน้าจะเข้าไปสำรวจภายใน Gardens by the Bay กันอีกสักครั้งครับ

DSC_D3144_1327

DSC_D3146_1334

DSC_D3147_1343

DSC_D3148_1344

DSC_D3149_1348

DSC_D3151_1359

Singapore Flyer กับ Supertree บนสะพานระหว่างเดินกลับมายัง Marina Bay Sands

DSC_D3152_1361

จากนั้นเดินย้อนกลับไปยัง Helix Bridge แล้วไปขึ้นรถไฟฟ้า ที่สถานี Promenade เพื่อเดินทางกลับโรงแรม

DSC_D3152_1361_0205

วันที่ 4 วันสุดท้ายของทริป ช่วงเช้าไปเดินเล่นแถวๆ บริเวณอ่าวมารีน่า โดยนั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี Raffles Place ออก ทางออก H เดินไปทาง Singapore River แล้วเดินเลี้ยวไปทาง Fullerton Hotel ลัดเลาะด้านข้างโรงแรม ไปเรื่อยๆ จะเจอถนนใหญ่ ข้ามถนนก็จะเจอ Merlion Park

DSC_0007

Singapore Flyer, Art Science Musuem และ Marina Bay Sands

DSC_D4002_1397

Art Science Musuem และ Marina Bay Sands
(ArtScience Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์แห่งแรกของโลก บนพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย 21 แกลอรี่ ภายในอาคาร “รูปกลีบบัว” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง จิตวิญญาณโลกตะวันออกกับตะวันตก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จัดแสดงงานที่ครอบคลุมตั้งแต่ ศิลปะและวิทยาศาสตร์, สื่อและเทคโนโลยี รวมไปถึงการออกแบบและสถาปัตยกรรม)

DSC_D4004_1403

DSC_D4010_1428

One Fullerton ริมอ่าวมารีน่า บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็น ร้านอาหารวิวอ่าว ในตอนกลางคืน ก็ค่อนข้างจะคึกคักพอสมควร

DSC_D4005_1405

สิงโตพ่นน้ำ สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ที่ Merlion Park

เมอร์ไลออน (Merlion) แปลว่า สิงโตทะเล มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1964 โดยนายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ (Mr.Fraser Brunner) สมาชิกคณะกรรมการฝ่ายของที่ระลึกและผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคลีฟ (Van Kleef Aquarium)

DSC_D4007_1417

Esplanade – Theatres on the Bay เป็นศูนย์แสดงศิลปะ บริเวณริมอ่าวมารีน่า มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย นอกจากเป็นที่แสดงศิลปะ แกลเลอรี่ แล้ว ยังเป็นสถานที่ ที่ใช้ในการจัดแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโอเปรา คลาสิค ป็อป หรืออื่นๆ สถาปัตยกรรมการก่อสร้างของที่นี้ จะมีลักษณะโดดเด่นอยู่ที่ หลังคา ซึ่งความคล้ายคลึงกับหนามทุเรียน ทำให้คนทั่วๆไปนิยม เรียกกันว่า ตึกทุเรียน

DSC_D4008_1420

หลังจากเดินชมบรรยากาศริมอ่าวมารีน่า ในช่วงเช้ากันแล้ว ก็เดินกลับมาทางโรงแรม Fullerton

Cavenagh Bridge และอาคารสำนักงาน ริมแม่น้ำสิงคโปร์

DSC_D4012_1436

Kids Jumping in the Singapore River Statue และ Cavenagh Bridge

DSC_D4013_1440

Cavenagh Bridge

DSC_D4014_1442

DSC_D4015_1446

The River Merchants ริมแม่น้ำสิงคโปร์ เป็นรูปปั้นที่แสดงให้เห็นการเจรจาการค้า ระหว่างพ่อค้าชาวจีนและผู้นำขาวมาเลย์ ในระหว่างที่ชาวจีนกับชาวอินเดีย ขนสินค้าขึ้นไปบนเกวียน ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นกันทั่วไป ในยุคสมัยก่อนในประเทศสิงคโปร์

DSC_D4017_1457

อาคารสำนักงาน และ Boat Quay ริมแม่น้ำสิงคโปร์ บริเวณนี้ ตอนเย็นๆ ถึงกลางคืน จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร มีร้านอาหารหลากหลายชนิด อาหารไทย ก็สามารถหาทานได้ที่นี้เช่นกัน 

DSC_D4016_1450

DSC_D4018_1459

DSC_D4019_1_1465

หลังจากนั้น นั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานี City Hall ออก ทางออก A แล้วเดินออกมาทางออกถนน Stamford เพื่อไปชมอาคาร สถานที่สำคัญๆ ของประเทศสิงคโปร์

DSC_0008

จุดแรก เป็น War Memorial Park บนถนน Stamford อนุสรณ์สงครามพลเรือน จะมีเสาทั้งหมด 4 ต้น ซึ่งเป็นตัวแทนของชนชาติหลักทั้ง 4 ของชาวสิงค์โปร์

DSC_D4019_2_0160

DSC_D4019_2_0163

แล้วเดินข้ามถนนมาที่ Connaught Drive ก็จะเจอ น้ำพุสไตล์วิคทอเรีย Tan Kim Seng Fountain

DSC_D4019_3_0155

DSC_D4019_3_0156

DSC_D4019_3_0158

ด้านหลังน้ำพุ จะเป็น The Padang ถัดจาก The Padang จะเป็น St. Andrew’s Cathedral

Cenotaph อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหาร 124 คนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลก

DSC_D4019_4_0149

Lim Bo Seng Memorial อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Lim Bo Seng ผู้ซึ่งเป็นวีระบุรุษสงครามของชาวสิงค์โปร์

DSC_D4019_5_0144

DSC_D4019_5_0142

DSC_D4019_5_0141

เดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์มาเรื่อยๆ จะเจอ Asian Civillisations Museum เป็นสถานที่จัดแสดงพัฒนาการทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจตลอดช่วงประวัติศาสตร์จีน และแสดงเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเซรามิกหยก รวมทั้งผลงานศิลปะที่ดีที่สุดของจีน วันเสาร์ ถึง วันพฤหัส เปิดบริการ 10.00 -19.00 น. วันศุกร์ เปิดบริการ 10.00 – 21.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม ยกเว้น นิทรรศการพิเศษ จะมีค่าเข้าชมต่างหาก

DSC_D4020_0118

DSC_D4020_0123

รูปปั้น ด้านข้าง Asian Civillisations Museum ริมแม่น้ำสิงคโปร์

DSC_D4020_1487_1_0108

เดินเลย Asian Civillisations Museum ไป ก็จะเจอ รูปปั้นท่านเซอร์แสตมฟอร์ด แพฟเฟิลส์ (Sir Stamford Raffles Landing Site) ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาของประเทศสิงค์โปร์ ณ ที่ตั้งนี้ เป็นตำแหน่งที่ท่านได้มาเหยียบบนแผ่นดินสิงค์โปร์ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1819 หลังจากนั้น ท่านได้เป็นผู้นำในการพัฒนาเกาะเล็กๆ ให้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมา

DSC_D4020_1487_2_0105

DSC_D4020_1487_3_0106

จากนั้น เดินเข้ามาทางถนนใหญ่ จะเจอ Parliament House เป็นอาคารรัฐสภา ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1999

DSC_D4020_1487_3_0188

DSC_D4020_1487_3_0191

ถัดจาก Parliament House เข้ามา ก็จะเป็น The Art House แต่เดิมเคยใช้เป็นอาคารรัฐสภา ในปัจจุบันเป็นที่สำหรับแสดงงานศิลปะ และดนตรี ด้านหน้าจะมีรูปปั้นช้างที่รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทาน ให้กับประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงการเสด็จเยือนสิงคโปร์เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1871

DSC_D4020_1487_4_0181

เดินออกมาทาง แม่น้ำสิงคโปร์ อีกครั้ง เพื่อเดินกลับไปยัง โรงแรมที่พัก

DSC_D4020_1487_5_0100

สะพาน Elgin

DSC_D4020_1487_6_0096

รูปปั้นเด็กน้อยกับแมวเหมียว ใกล้ๆ กับร้าน Jumbo Seafood Gallery (The Riverwalk)

DSC_D4020_1487_7_0094

เดินลอดใต้สะพานมาทางห้าง Central มาเดินชม Clarke Quay แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนของชาวสิงคโปร์ ในช่วงสายๆ

Read Bridge

DSC_D4021_1475

Clarke Quay ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็น ห้าง Central

DSC_D4023_1481

DSC_D4025_1487

ร้าน Jumbo Seafood สาขา Riverside Point

DSC_D4026_1496

Clarke Quay

DSC_D4027_1503

DSC_D4028_1510

Locks of Love ด้านข้างห้าง Central

DSC_D4029_1517

ก่อนกลับกรุงเทพ แวะมาทานอาหารที่ Jumbo Seafood Gallery (The Riverwalk) ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ มีเมนูยอดนิยม คือ Chili Crab

การเดินทางมาร้าน Jumbo Seafood สาขานี้ ให้นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Clarke Quay ออก ทางออก F เดินลอดสะพาน Coleman ไปทาง Boat Quay ก็จะเจอร้าน Jumbo Seafood Gallery ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสิงคโปร์ มื้อนี้หมดไป 143.59 เหรียญ
(Web Site : http://www.jumboseafood.com.sg)

DSC_D4030_1524_B038_1533

รายการอาหาร ร้าน Jumbo Seafood Gallery

DSC_D4030_1524_B039_1522

ถั่ว สำหรับทานเล่น จานนี้ ไม่ฟรีนะครับ มีราคา 1.20 เหรียญ

DSC_D4030_1524_B041_1536

อุปกรณ์ ที่เอาไว้จัดการกับปู

DSC_D4030_1524_B042_1537

Cha Siew (BBQ Pork) หมูย่าง อร่อยๆ แต่น้อยกว่าที่ฮ่องกงนิดหน่อย ราคา 14.00 เหรียญ

DSC_D4030_1524_B043_1545

Prawn with Cereal กุ้งทอดนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปังผสม Cereal อร่อยดีครับ ราคา 20.00 เหรียญ

DSC_D4030_1524_B045_1549

Chili Crab ปูผัดพริก ได้กินเนื้อปูนิดหน่อย น้ำที่ราดมาอร่อยมากๆ เอาขนมปังจิ้มกินก็อร่อยแล้วครับ ราคา 56.00 เหรียญ

DSC_D4030_1524_B046_1552

Mini Bun – Deep Fried เป็นขนมปังเอาไว้จิ้มกับน้ำราด Chilli Crab อร่อยดีครับ ราคา 2.40 เหรียญ

DSC_D4030_1524_B047_1555

Fried Rice with Seafood ข้าวผัดทะเล รสชาติจืดไปหน่อย ราคา 16.00 เหรียญ

DSC_D4030_1524_B049_1559

ร้านบะกุ๋ดเต๋ ร้านดังอีกแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ Songfa Bak Kut Teh อยู่แถวๆ Clarke Quay จะอยู่ริมถนน ตรงข้ามกับห้าง Central โดยจะเยื้องไปทางแม่น้ำสิงคโปร์ ร้านนี้เคยกินเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ รสชาติอร่อยเหมือนกันครับ (Web Site : http://www.songfa.com.sg)

DSC_D4032_1570

DSC_D4032_1570_0309

ก่อนกลับ แวะซื้อของฝากยอดนิยม ข้าวโพด Garrett Popcorn ที่ Somerset 313 ร้านข้าวโพดคั่ว Garrett Popcorn เป็นร้านที่มาจากอเมริกา รสชาติค่อนข้างหวาน ชอบสุดน่าจะเป็น Macadamia CaramelCrisp
(Web Site : http://www.garrettpopcorn.com)

DSC_D4031_1564

และแล้ว ก็ได้เวลากลับประเทศไทย โดยออกจาก ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Changi Airport Singapore (SIN)) เวลา 17.00 น. ด้วยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD2936 ถึงสนามบินดอนเมือง (Don Mueang International Airport (DMK)) เวลา 18.55 น. 

DSC_D4033_1582

เป็นอันจบทริป สำหรับการเดินทางไปเดินเล่นชิลๆ ที่ สิงคโปร์ ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ

Comments

comments